ฎีกาตัดสินเกี่ยวกับปัญหาข้อกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2100/2531
ป.อ. มาตรา 76, 78, 80, 91, 288
แม้ไม่ได้ความว่าอาวุธที่จำเลยใช้แทงทำร้ายมีขนาดเท่าใดแต่เมื่อจำเลยแทงผู้เสียหายถึงสองครั้ง ครั้งแรกถูกที่ข้อศอกขวา แล้วจำเลยแทงซ้ำอีกผู้เสียหายปัดแขนข้างที่จำเลยถืออาวุธ อาวุธของจำเลยจึงผ่านท้องมาถูกแขนซ้ายของผู้เสียหายได้รับบาดแผล และจำเลยได้แทงผู้ตายที่หน้าท้องหนึ่งครั้งบาดแผลลึก 6 นิ้วฟุต เป็นเหตุให้ผู้ตายถึงแก่ความตาย แสดงว่าอาวุธที่จำเลยใช้เป็นอาวุธที่ร้ายแรง และจำเลยตั้งใจแทงผู้เสียหายและผู้ตายที่บริเวณลำตัวอันเป็นอวัยวะสำคัญอย่างร้ายแรง จำเลยจึงมีความผิดทั้งฐานพยายามฆ่าผู้เสียหายและฐานฆ่าผู้ตาย
ขณะเกิดเหตุจำเลยอยู่ระหว่างศึกษาเล่าเรียน อายุเพียง 20 ปีจำเลยกระทำผิดโดยมีเจตนาเพียงช่วยพวกของจำเลยในการต่อสู้หลังเกิดเหตุ 4 วันก็เข้ามอบตัว และเบิกความในชั้นศาลว่าอยู่ในที่เกิดเหตุด้วย จึงเป็นการลุแก่โทษและเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาของศาล คดีมีเหตุบรรเทาโทษ ควรปรานีลดมาตราส่วนโทษและลดโทษให้จำเลย.
___________________________
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยใช้มีดพกปลายแหลมเป็นอาวุธแทงประทุษร้ายร่างกายนายเนรมิตร 1 ครั้ง ถูกบริเวณข้อมือขวาเป็นบาดแผลโดยมีเจตนาฆ่าจำเลยได้กระทำความผิดไปตลอดแล้ว แต่ไม่บรรลุผลเพราะผู้เสียหายหลบทัน อาวุธมีดที่จำเลยแทงจึงไม่ถูกอวัยวะสำคัญของผู้เสียหาย ผู้เสียหายจึงไม่ถึงแก่ความตายแล้วจำเลยใช้มีดพกปลายแหลมเล่มเดียวกันแทงประทุษร้ายนายชาติชาย 1 ครั้งถูกที่บริเวณหน้าท้องเหนือสะดือซึ่งเป็นอวัยวะสำคัญเป็นบาดแผลฉกรรจ์โดยเจตนาฆ่าเป็นเหตุให้นายชาติชายถึงแก่ความตาย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 80, 288, 288
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา288, 80 และมาตรา 288 ลงโทษฐานพยายามฆ่าผู้อื่น จำคุก 12 ปี ฐานฆ่าผู้อื่นจำคุก 18 ปี รวมจำคุก 30 ปี
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยได้ใช้อาวุธซึ่งมีลักษณะคล้ายเหล็กขูดชาฟท์แทงทำร้ายผู้เสียหายและผู้ตาย และวินิจฉัยว่า แม้ข้อเท็จจริงจะฟังไม่ได้ความชัดว่าอาวุธที่จำเลยใช้แทงทำร้ายผู้เสียหายและผู้ตายมีขนาดกว้างยาวเท่าใด แต่ตามพฤติการณ์ได้ความว่าเมื่อจำเลยแทงผู้เสียหายสองครั้ง ครั้งแรกถูกที่ข้อศอกขวา แล้วจำเลยแทงซ้ำอีกผู้เสียหายปัดแขนจำเลยข้างที่ถืออาวุธ แต่อาวุธของจำเลยถูกแขนขวาผู้เสียหายผ่านท้องมาถูกแขนซ้ายจนผู้เสียหายได้รับบาดแผลที่แขนซ้าย แล้วจำเลยเสียหลักเซถลาไป และจำเลยใช้ช่วงเวลานี้แทงผู้ตายซึ่งเข้ามาในที่เกิดเหตุภายหลังที่หน้าท้องหนึ่งครั้ง เป็นบาดแผลลึกถึง 6 นิ้วฟุต เป็นเหตุให้ผู้ตายถึงแก่ความตาย แสดงให้เห็นว่าอาวุธที่จำเลยใช้เป็นอาวุธที่ร้ายแรงและจำเลยตั้งใจแทงผู้เสียหายและผู้ตายทั้งสองคนโดยเจตนาแทงที่บริเวณลำตัวอันเป็นอวัยวะสำคัญ เป็นการแทงอย่างแรง มิได้ยั้งมือ จำเลยจึงมีเจตนาฆ่าผู้เสียหายและผู้ตาย
ในขณะเกิดเหตุจำเลยอยู่ในระหว่างศึกษาเล่าเรียน อายุเพียง20 ปี การกระทำผิดของจำเลยมีเจตนาเพียงช่วยเหลือพวกของจำเลยซึ่งเป็นคนหมู่บ้านเดียวกันในการต่อสู้ มิใช่จำเลยเกะกะระรานหรือหาเหตุเพื่อรังแกผู้อื่นก่อน หลังจากเกิดเรื่องแล้ว 4 วันก็เข้ามอบตัวให้เจ้าพนักงานตำรวจดำเนินคดีแต่โดยดีมิได้หลบหนีและเบิกความในชั้นพิจารณาว่าอยู่ในที่เกิดเหตุด้วยอันเป็นการลุแก่โทษและเบิกความเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาของศาล คดีมีเหตุบรรเทาโทษ จึงสมควรปรานีลดมาตราส่วนโทษและลดโทษให้จำเลย
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ลดมาตราส่วนโทษให้จำเลย 1 ใน 3 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 76 ในความผิดฐานพยายามฆ่าวางโทษจำคุก 8 ปี และในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นวางโทษจำคุก 12 ปี รวมจำคุก20 ปี ลดโทษให้ 1 ใน 4 ตามมาตรา 78 คงจำคุกจำเลย 15 ปี นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์.
(สุพจน์ นาถะพินธุ-วิศิษฏ์ ลิมานนท์-วีระชัย สูตรสุวรรณ)
แหล่งที่มา
กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
แผนก
หมายเลขคดีแดงศาลชั้นต้น
หมายเหตุ
หากมีข้อสงสัยประการใดติดต่อ ที่นี้เลย Tel/Line id : 089-2142456 (ทนายสอง ประธานชมรมปรึกษาคดีฟรี ทั่วประเทศ ทุกจังหวัด ทนายความ)
Line id : lawyer_2 ชมรมปรึกษาคดีฟรี ทั่วประเทศ ทุกจังหวัด ทนายความ)
ท่านสามารถเข้าเยี่ยมชมศึกษาข้อกฎหมาย คำพิพากษา ได้ที่ www.ปรึกษาคดีฟรี.com